ล้มแล้วไม่ลุก
ออกจะบ่อยครั้งที่เราวิ่งเล่นแล้วก็ล้มเมื่อตอนเด็กๆแล้วก็ร้องไห้...แต่เราก็ลุกขึ้นด้วยคำปลอบขวัญของคนรอบข้างไม่นานเราก็หยุดร้องไห้เพราะเราเรียนรู้ว่ามันคือความเจ็บปวดแล้วก็หาย
และก็ออกจะบ่อยที่เมื่อโตขึ้นเราทำผิดพลาดแต่ก็ได้รับการให้อภัย...
แล้วเราก็ไม่ทำอีกเพราะเราเรียนรู้ว่าสิ่งไหนผิด...สิ่งไหนถูก
ในวันนี้เราเติบโตขึ้นท่างกลางการเฝ้ามองดูของคนที่รายล้อมตัวเราแล้ว
พวกเขาก็เฝ้ามองเส้นทางชีวิตของเราอยู่ห่างๆในตอนนี้
เส้นทางชีวิตที่ทอดยาวออกไปเรื่อยๆเราไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดที่ไหนเพราะเราเองก็ยังเดินไปไม่ถึง
แต่เราก็ได้ประโยชน์จากมันมากมาย...เส้นทางที่ให้ชีวิต ให้ความหวังใจ
เราเรียนรู้ที่จะเดินไปเรื่อยๆพร้อมกับความแปลกใหม่ที่เข้ามาผสมผสานกับเป้าหมายในชีวิต
ทำให้ทางนี้เริ่มมีสีสันมากขึ้น
อาจจะมีบ้างที่ทางเดินของเราดูไม่เรียบง่ายเลยมันมีกรวด ทราย ก้อนหิน ฝุ่น หมอกควันและมากมายหลายอย่าง
จนทำให้เราเหนื่อยและท้อจนถอดใจ...
หากสิ่งเหล่านี้มาทำให้ชีวิตเธออึมครึม ความหวังใจของเธอลดถอยลง
เธอจะเลือกอย่างไหนล่ะระหว่างสู้ต่อไป หรือถอยหลังกลับ
แน่นอนว่ายังไงเธอก็ต้องสู้ต่อไปเพราะเธอไม่สามารถที่จะถอยกลับไปได้อย่างแน่นอนเพราะเวลาก็ถูกตัดทิ้งไปเหลือเพียงตอนนี้กับวันพรุ่งนี้
ถ้าเธอเหนื่อย เธออาจจะล้มลงก็ได้ในวันหนึ่งแต่อย่าลืมนะว่าเวลาจะถูกตัดทิ้งออกไปเรื่อยๆ
เมื่อเธอล้มแล้วนั่งมองเงาของตัวเองอยู่อย่างนั้นก็เหมือนเธอนั่งรอวันเวลาให้ผ่านไปมันเหมือนคนแพ้แล้วแต่เรายังไม่แพ้สักหน่อย
ลุกขึ้น! เดี๋ยวนี้ ลุกขึ้นตอนที่เธอยังไม่แพ้นี่แหละแม้เราจะเหนื่อยและล้าแค่ไหน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ใช่หรือที่เราจะสู้อย่างผู้ไม่แพ้แม้จะล้มอีกสักกี่ครั้งก็ยังขึ้นชื่อว่าลุกขึ้นสู้ทุกครั้ง
คนที่ล้มแล้วลุกคือผู้ที่ชนะ --- คนที่ล้มแล้วยอมจำนนท์ต่อชะตาคือผู้ที่กำลังจะพ่ายแพ้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น